นโยบายการดำเนินงานของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในคราวการประชุมผู้บริหารกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เมื่อวันพุธที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒






จากที่กล่าวมาทั้งหมดของทิศทางภาครัฐที่ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ
หัวใจของกระทรวงใหม่ เกิดขึ้นจากการปัจจัยของการเปลี่ยนแปลงพลวัตของโลก รวมถึง Technology Disruption และ Aging Society ที่ทำให้ทุกคนจะต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอดในคลื่นสึนามิของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
นโยบายภาครัฐเป็นเพียงการสร้างนิเวศให้เอื้อต่อการพัฒนา แต่การที่จะทำให้การปฏิรูปการศึกษา ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญต่อการพัฒนาประเทศนั้นต้องอาศัยความร่วมมือของหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชน และด้วยการเชื่อมโยงภาครัฐ (อันได้แก่ ภาคนโยบาย ภาคสถาบัน) กับภาคเอกชน ซึ่งมีช่องว่างของความเข้าใจ ในระบบราชการกับระบบเอกชน จึงเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการศึกษาของประเทศในครั้งนี้
 
 
UniconX Platform จึงได้ถือกำเนิดขึ้นจากประสบการณ์การทำงานของ Founder คือ สิทธิพรชัย รัตนะ ที่มีประสบการณ์ในการทำงานภาคอุตสาหกรรมมากว่า 22 ปี โดยมีประสบการณ์ทั้ง วิศวกร(Process Guarantee Engineer), ผู้จัดการในโรงงาน (Process Guarantee Manager) ,ผู้จัดการสรรหาทรัพยากรมนุษย์ (Industrial Recruitment Manager), ผู้จัดการโครงการการศึกษากับบริษัท (Strategic Recruitment Manager) รวมถึงประสบการณ์การเป็น Startup Company มากว่า 12 ปี ซึ่งอาศัยเทคโนโลยีด้านอินเตอร์เน็ต จึงสามารถทำงานประจำควบคู่การทำ Startup และประสบความสำเร็จทั้ง 2 งานประจำ และ Startup Company
รายละเอียด Startup Company
Qualitech Equipment :

 

  โดยเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท ทั้งทางด้าน Green Technology /Circular Economy และ Sustain Strategicให้กับบริษัทกลุ่มยุโรป และ SME ของประเทศไทยได้แก่


1.บริษัทด้านอุปกรณ์กำจัดตะกรัน/European Company
2.บริษัทด้านฉนวนนาโนเทค/European Company
3.บริษัทด้าน Circular Economy/European Company
4.บริษัทด้าน Green Technology&Circular Economic /Thai Company
5.บริษัทด้านอุปกรณ์ขนย้าย/Thai Company
6.บริษัทด้านรองเท้าเซฟตี้และอุปกรณ์เซฟตี้ /Thai Comapany
7.CSR ด้านการตลาดให้กับกลุ่มงานหล่อของวิสาหกิจชุมชน โดยทำการตลาดผ่าน http://www.prabuddharoop.com

จากประสบการณ์ทั้งหมดของ Founder จึงทำให้เห็นช่องว่างของการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชน และเป็นสิ่งที่ยากต่อความเข้าใจในแต่ละมุมของทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งเป็นความท้าทายที่ต้องก้าวผ่านไปสู่การพัฒนาประเทศสู่ความยั่งยืน จึงได้คิด Platform เพื่อลดช่องว่างดังกล่าวตามความสมัครใจของทั้ง 2 ฝ่าย
โดยเสริมเฉพาะในจุดที่ทางสถาบันการศึกษา หรือ ภาคเอกชน มีการร้องขอให้มาเติมเต็มในจุดที่เป็นช่องว่างของการประสานงานนั้น